เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 21 September 2010. ↑ "Un ministère au service de votre alimentation" [A ministry serving your food] (ภาษาฝรั่งเศส). 29 July 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 August 2010. ↑ "Electricity production, consumption and market overview". eu (ภาษาอังกฤษ). ↑ ประเทศฝรั่งเศส เก็บถาวร 2006-09-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน กระทรวงการต่างประเทศ ↑ พิพิธภัณฑ์และอนุสาวรีย์ทางประวัติศาสตร์ ↑ "Chiffres clés du transport Édition 2010" (PDF) (ภาษาฝรั่งเศส). Ministère de l'Écologie, de l'Énergie, du Développement Durable et de la Mer.
กลุ่ม D : ฝรั่งเศส , ออสเตรเลีย , เดนมาร์ก , ตูนิเซีย-【แม้ฟอร์มแย่กับผี
↑ William Godwin (1876). "Lives of the Necromancers". p. 232. ↑ André Thuilier, Histoire de l'université de Paris et de la Sorbonne, Paris, Nouvelle librairie de France, 1994 ↑ Burke, Peter, A social history of knowledge: from Gutenberg to Diderot, Malden: Blackwell Publishers Inc., 2000, p. 17 ↑ Pascal Boniface; Barthélémy Courmont (22 November 2006). Le monde nucléaire: Arme nucléaire et relations internationales depuis 1945. Armand Colin. pp. 120–. ISBN 978-2-200-35687-3. ↑ "Status of World Nuclear Forces". Federation Of American Scientists. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 18 June 2015. ↑ "Study France's Nuclear-Power Success". TheLedger. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 May 2015. ↑ "Stanford Journal of International Relations, "The French Connection: Comparing French and American Civilian Nuclear Energy Programs"" (PDF).
p. 12. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 5 June 2011. สืบค้นเมื่อ 5 July 2011. ↑ "France (FRA) Exports, Imports, and Trade Partners". oec. world (ภาษาอังกฤษ). ↑ "The 10 Largest Banks in the World". Doughroller. net. 15 June 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 July 2011. สืบค้นเมื่อ 16 July 2011. ↑ "Country fact sheet: France" (PDF). World Investment Report 2009. UNCTAD. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 4 July 2010. สืบค้นเมื่อ 7 October 2010. ↑ 68. 0 68. 1 68.
คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 1 June 2010. สืบค้นเมื่อ 7 October 2010. ↑ "Country comparison:: railways". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-10-04. สืบค้นเมื่อ 2020-04-25. ↑ "Country comparison:: roadways". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-05-13. สืบค้นเมื่อ 2020-04-25. ↑ (ในภาษาฝรั่งเศส) L'automobile magazine, hors-série 2003/2004 page 294 ↑ "Strikes block French ports". The Journal of Commerce Online. 23 April 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 May 2008 – โดยทาง BDP International.
เรียนทำอาหารที่ฝรั่งเศส ก้าวสู่การเป็น เชฟมืออาชีพ Le Cordon Bleu
'ฝรั่งเศส' เหนือกว่าเยอะ! เตรียมถล่มออสเตรเลีย เพื่อ 3 แต้มแรก
เปิดกำหนดการ 'บิ๊กตู่' หารือทวิภาคี ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น สหรัฐ ออสเตรเลีย
1 เป็นชาวคริสต์ ร้อยละ 39. 6 ไม่นับถือศาสนาใด ร้อยละ 5. 6 เป็นชาวมุสลิ ร้อยละ 2. 5 นับถือศาสนาอื่น (เช่น ศาสนาพุทธ ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และศาสนาซิกส์) และอีกร้อยละ 0. 4 ยังไม่ตัดสินใจ[120] ฝรั่งเศสมีชุมชนชาวยิงที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปและใหญ่เป็นอันดับสามของโลกรองจากอิสราเอลและสหรัฐอเมริกา มีผู้นับถือศาสนายูดายนี้ราว ๆ 480, 000 ถึง 600, 000 คน[120] ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาที่สำคัญของประเทศฝรั่งเศสมากว่าพันปี มีศาสนสถานมากถึง 47, 000 แห่งในประเทศ และราวร้อยละ 94 ของคริสตศาสนิกชนนับถือนิกายโรมันคาทอลิก[121] สถานที่สำคัญและความเชื่อทางศาสนาคริสต์ถูกทำลายไปอย่างมากในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส จากนั้นเมื่อปี 1905 รัฐบาลได้ออกกฎหมายแยกศาสนจักรออกจากคริสตจักรอย่างเป็นทางการ[122] ปัจจุบัน รัฐบาลจึงห้ามไม่ให้กลุ่มศาสนาใดมีสิทธิพิเศษเหนือกว่ากลุ่มอื่นในสังคม ในขณะเดียวกัน องค์กรทางศาสนาก็ไม่ควรแทรกแซงทางการเมือง กีฬา[แก้] ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลกมากมาย อาทิ จักรยานทางไกลตูร์เดอฟร็องส์[123] ฟุตบอลโลก 1938 และ 1998[124] รักบี้ชิงแชมป์โลก 2007[125] ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1960 1984 และ 2016 และฟุตบอลโลกหญิง 2019 สนามกีฬาสตาดเดอฟร็องส์ในเมืองแซ็ง-เดอนีเป็นสนามกีฬาที่ใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศส กีฬาที่ได้รับความนิยมในฝรั่งเศสได้แก่ ฟุตบอล ยูโด เทนนิส[126] รักบี้[127] และเปตอง นอกจากนี้ รายการแข่งรถ 24 ชั่วโมง เลอม็อง[128] ยังเป็นที่รู้จัก เช่นเดียวกับเทนนิสแกรนด์สแลมเฟรนช์โอเพ่น ฝรั่งเศสมีสายสัมพันธ์ที่ยาวนานกับกีฬาโอลิมปิกสมัยใหม่ ปีแยร์ เดอ กูแบร์แต็ง ชาวฝรั่งเศสเป็นผู้ก่อตั้งกีฬาโอลิมปิกสมัยใหม่ ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพจัดโอลิมปิกฤดูร้อนสองครั้งในปี 1900 (กีฬาโอลิมปิกครั้งที่สอง) และ 1924 โดยทั้งสองครั้งจัดที่กรุงปารีส เป็นเจ้าภาพจัดโอลิมปิกฤดูหนาวอีกสามครั้ง ในปี 1924 ที่ชามอนี ค.
4 ล้านตัน ผลิตได้เป็นอันดับ 1 ของสหภาพยุโรปและอันดับ 2 ของโลก เมล็ดพืชที่ให้น้ำมัน 6 ล้านตัน ผลิตได้เป็นอันดับ 1 ของสหภาพยุโรป ส่วนด้านการทำปศุสัตว์และการผลิตเนื้อสัตว์นั้น มีดังนี้ โค จำนวน 19. 2 ล้านตัว / เนื้อโค ปริมาณผลิต 1. 8 ล้านตัน สุกร จำนวน 15. 2 ล้านตัว / เนื้อสุกร ปริมาณผลิต 2. 3 ล้านตัน แกะ จำนวน 8. 9 ล้านตัว, แพะ จำนวน 1. 2 ล้านตัว / เนื้อแพะและแกะ ปริมาณผลิต 1. 3 ล้านตัน เนื้อสัตว์ปีก ปริมาณผลิต 2. 1 ล้านตัน ประเทศคู่ค้าที่สำคัญ ภายกลุ่มประชาคมยุโรปกว่าร้อยละ 58. 6 ของการค้าทั้งหมดของประเทศฝรั่งเศสคือ ประเทศเยอรมนี เบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก สหราชอาณาจักร สเปนและอิตาลี ที่เหลือได้แก่ สหรัฐอเมริกา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์และแอลจีเรีย พลังงาน[แก้] Électricité de France (EDF) บริษัทผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าหลักในฝรั่งเศส ยังเป็นหนึ่งในผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลกอีกด้วย ในปี 2018 ผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 20% ของสหภาพยุโรป[74] ส่วนใหญ่มาจากพลังงานนิวเคลียร์ ฝรั่งเศสเป็นประเทศปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เล็กที่สุดในบรรดาสมาชิกกลุ่ม 7 เนื่องจากมีการลงทุนอย่างหนักในด้านพลังงานนิวเคลียร์ ณ ปี 2016 ไฟฟ้า 72% ของประเทศผลิตขึ้นโดยโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 58 โรง ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดในโลก ฝรั่งเศสยังใช้เขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า เช่น เขื่อน Eguzon, Étang de Soulcem และ Lac de Vouglans การค้าต่างประเทศ[แก้] ในอดีตประเทศฝรั่งเศสขาดดุลการค้ามาโดยตลอดจนถึงปี 1982 ซึ่งได้มีการปรับโครงสร้างใหม่ เช่น การไม่รวมอัตรารายได้กับดัชนีเงินเฟ้อ และการปรับความสามารถในการแข่งขันส่งผลให้สภาวะการค้าของประเทศฝรั่งเศสดีขึ้น และตั้งแต่ปี 1992 เป็นต้นมา ประเทศฝรั่งเศสก็ได้เปรียบดุลการค้าติดต่อกันเรื่อยมา โดยปัจจัยที่ส่งผลให้ฝรั่งเศสได้เปรียบดุลการค้า คือ ราคาพลังงานที่ฝรั่งเศสต้องนำเข้าได้ลดลง ประเทศฝรั่งเศสทำการค้ากับสหภาพยุโรปเป็นสำคัญโดยร้อยละ 60 ของการส่งออกของฝรั่งเศสส่งไปยังตลาดสหภาพยุโรป ซึ่งเดิมถือว่าเป็นจุดอ่อนของประเทศฝรั่งเศส แต่สภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันได้กลายเป็นข้อได้เปรียบ และการส่งออกสินค้ามูลค่าสูงเช่น เครื่องบินแอร์บัส และอุปกรณ์การบิน ดาวเทียม อุปกรณ์ด้านการทหาร และรถไฟความเร็วสูง (TGV) ได้ขยายตัวอย่างมากโดยมีสัดส่วนถึงร้อยละ 20 ของการส่งออกของประเทศฝรั่งเศสทั้งหมด แนวโน้มสภาวะเศรษฐกิจในอนาคต คาดว่าประเทศฝรั่งเศสจะได้เปรียบดุลการค้าลดลง เนื่องจากการถดถอยของอุปสงค์โลก ซึ่งเป็นผลกระทบจากวิกฤตการณ์เศรษฐกิจเอเชีย ในปี 1998 และการถดถอยของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ภายหลังเหตุการณ์ก่อการร้ายในสหรัฐอเมริกาและสงครามในอิรัก[75] การท่องเที่ยว[แก้] จำนวน 81.
นายกฯ ออสเตรเลียให้คำมั่นเตรียมฟื้นฟูสัมพันธ์กับฝรั่งเศส หวังหาย